วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Birdy



ประวัติ

"เบอร์ดี้" ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งนับเป็นผู้บุกเบิกตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มรายแรก ในประเทศไทย โดยในขณะนั้น ตลาดกาแฟในประเทศไทยเน้นที่กาแฟผง โดยการบริโภคจะอยู่ที่บ้านหรือสำนักงานเป็นหลัก ซึ่งกาแฟเย็นจำพวก โอเลี้ยง และกาแฟโบราณ จะได้รับความนิยมสำหรับบริโภคนอกบ้าน ตามร้านค้าบนถนน และร้านอาหารขนาดเล็กเท่านั้น ในขณะที่น้ำอัดลม เช่น เป๊ปซี่ และ โค้ก เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มประเภทกระป๋องและขวด
ในยุคนั้น กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้® ราคา 10 บาท เท่ากับโค้กกระป๋อง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับราคาของ กาแฟ โอเลี้ยง ที่ขายตามร้านค้าบนถนน จะมีราคา 5 บาทเท่านั้น จึงทำให้กาแฟกระป๋องเป็นสินค้าที่ใหม่สำหรับผู้บริโภคในขณะนั้นอย่างยิ่ง ดังนั้น กลยุทธ์การสื่อสารการตลาด จึงเน้นหนักที่การสร้างการรับรู้แนวคิดของสินค้าเบอร์ดี้® คือ “กาแฟเย็นรสเข้มข้น” ซึ่งประสบความสำเร็จในการทำให้เบอร์ดี้สามารถครองใจผู้บริโภค และเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม ได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับที่มาของชื่อตราสินค้า “เบอร์ดี้” นั้น จุดประกายมาจากนกที่โบยบินอย่างสวยงามอยู่บนท้องฟ้า จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของอิสระเสรีภาพสำหรับคนไทย ที่ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงความอิสระจากความสดชื่น ในขณะที่ดื่มกาแฟเบอร์ดี้
ส่วนรสชาติของ “เบอร์ดี้” ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถันให้เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยเป็นสำคัญ อีกทั้งรูป แบบบรรจุภัณฑ์ยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงผู้บริโภค เพื่อให้รู้สึกถึงความสดชื่นของกาแฟเย็นรวมทั้งรสชาติที่ดีอีกด้วย มีให้เลือก 5 รสชาติ ประกอบด้วย



เบอร์ดี้® โรบัสต้า: (กระป๋องแดง / เบอร์ดี้แถบแดง):
กาแฟกระป๋องยอดขายอันดับหนึ่งที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โดนเด่นที่รสชาติเข้มข้นถึงใจ ผลิตจากกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ดี สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น


เบอร์ดี้® เอสเปรสโซ: (กระป๋องเขียว / เบอร์ดี้แถบเขียว):
ใหม่!! เบอร์ดี้ เอสเปรสโซ กาแฟเข้มข้น กลมกล่อมผลิตจากกาแฟกาแฟคั่วบดสายพันธุ์ดีรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกาแฟคั่วบด สำหรับผู้ชายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ผู้ที่ชื่นชอบ กาแฟเข้มข้น กลมกล่อมให้คุณตื่นตัว และสดชื่น ในทุกที่ทุกเวลา


เบอร์ดี้® คลาสสิก:
กาแฟกระป๋องรสชาติแรกของเบอร์ดี้ และของประเทศไทย ที่ยังคงเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้บริโภคในปัจจุบัน เข้มข้นกาแฟและกลมกล่อมด้วยรสชาติของนมสดอีกหนึ่งรสชาติที่ครองใจผู้บริโภคตลอดมา


เบอร์ดี้ ® แบล็ค:
กาแฟเย็นพร้อมดื่ม “เบอร์ดี้ เพียว แบล็ค”กาแฟดำ เข้มเต็มรสกาแฟแท้ในทุกหยด ถูกใจคอกาแฟ พร้อมกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคั่วบดชวนลิ้มลอง น้ำตาลน้อยแต่หวานพอดี


เบอร์ดี้ ลาเต้:
ใหม่ เบอร์ดี้ ลาเต้กาแฟลาเต้ รสนุ่ม หวานมัน ผสมผสานนมกับกาแฟที่เข้มข้นกำลังดีไม่ขมจนเกินไป มีกลิ่นหอมละมุน สำหรับผู้ที่ชอบกาแฟนมรสนุ่มละมุนโดยเฉพาะ ให้คุณตื่นตัว และสดชื่นในทุกเวลาที่คุณต้องการ




Web site




เว็บไซต์ birdy มีการบอกประวัติความเป็นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตราสินค้า ทั้งนี้ยังรวมลักษณะของสินค้าต่างๆให้ลูกค้าสามารถเลือกชมและอัพเดทความเคลื่อนไหว โดยหน้าเว็บไซต์มีช่องทางการติดต่อ ข่าวประชาสัมพันธ์ ของเบอร์ดี้อีกด้วย


Social Media

facebook



facebook ของ birdy world นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและอัพเดตกิจกรรมต่างๆที่ให้กลุ่มลูกค้าได้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับของรางวัล ลูกค้าสามารถหาข้อมูลช่องทางการซื้อผลิตภัณฑ์ได้ทาง facebook birdy world ให้ความรู้ในด้านสุขภาพกับกาแฟ อีกทั้งการให้คำคมในใช้ชีวิต


Youtube


Youtube ของ birdy world นำเสนอโฆษณาทุกผลิตภัณฑ์และแคมเปญเพื่อสังคม



 clip video ตูน บอดี้แสลม



ตอกย้ำความเป็นกาแฟเข้มและเป็นที่หนึ่งอยู่ในใจคนไทยมามากกว่า 20 ปี ในครั้งนี้เลือก ตูน bodyslam นักร้องวงร็อคอันดับ 1 ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น มาเป็น presenter โดยใช้เพลง “ แสงสุดท้าย ” ในการถ่ายทอดโฆษณาสุดประทับใจ ทั้งนี้ในโฆษณายังถ่ายทอดเรื่องราวโดยใช้แลนด์มาร์คสำคัญต่างๆที่เคียงข้างคนไทยในทุกๆวันของชีวิต

กาแฟเบอร์ดี้ และ Genie Record ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตสุดมัน Bodyslam ร็อคจัดเต็ม เบอร์ดี้เข้มซะใจ พบกับคอนเสิร์ตจากศิลปิน Bodyslam , ศิริพร อำไพพงษ์ , The Mousses และ Sweet Mullet จัดขึ้นที่จังหวัดราชบุรี , สุพรรณบุรี , อุบลราชธานี และอุดรธานี โดยในงานมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย สามารถเข้างานได้โดยซื้อบัตรใบละ 100 บาท แถมกาแฟเบอร์ดี้โรบัสต้า 3 กระป๋อง ซึ่งถือเป็นการทำให้ลูกค้าได้ทดลองกาแฟรสชาติใหม่ และยังได้ดูคอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปินชื่อดังอีกด้วย



clip video วี ไวโอเลต




‘Birdy’ Espresso present MV เพลง “อยากรู้หัวใจตัวเอง (Special Version)” จาก พรีเซ็นเตอร์สุดเท่ วี วิโอเลต เป็นการทำสื่อสารการตลาดทางการโฆษณาผ่าน MV เพลง "อยากรู้หัวใจตัวเอง" ซึ่งเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมและติดหูคนไทย และใช้ศิลปินที่มีชื่อเสียง วี วิโอเลต เป็นนักร้องวัยรุ่นเพื่อดึงดูดความสนใจและกลุ่มเป้าหมายคือ วัยรุ่นและคนวัยทำงานตอนต้น ชาย-หญิง อายุระหว่าง 18-35 ปี MV นี้เป็นการโฆษณากาแฟเบอร์ดี้ เอสเปรสโซ่ หรือกาแฟกระป๋องเขียว ซึ่งใน MV ก็จะมีโทนเป็นสีเขียว เช่น เสื้อผ้าของวี วิโอเลต เพื่อความสอดคล้องกับตัวผลิตภัณฑ์อีกด้วย

การเป็น sponcer ซีรีย์ เสือ ชะนี เก้ง



Birdy ร่วมสนับสนุนซิทคอม เสือ ชะนี เก้ง ซึ่งออกอากาศทางช่องone โดยใช้โฆษณาตัวใหม่ที่มีศิลปินรุ่นใหม่อย่าง วี วิโอเลต เป็นนักแสดง เพราะแสดงให้เห็นว่าในยุคปัจุบันนี้ กาแฟเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งมักจะชอบทำงานในเวลากลางคืน จนถึงวัยทำงาน และโฆษณาตัวนี้ยังแสดงให้เห็นนี้ถึงการสู้กับเป้าหมายในชีวิต รวมถึงซิทคอม เสือ ชะนี เก้ง ก็เป็นที่นิยมสำหรัยวัยรุ่น จึงสามารถทำให้ผู้บริโภคนิยมดื่มกันมากขึ้น



กิจกรรมเพื่อสังคม


ด้วยวิสัยทัศน์ของ กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโตะ ที่ว่าด้วยการมุ่งสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการจัดทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่มากมาย ในด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของตนเองไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ที่ได้สร้างโรงเรียนจำนวน50แห่งทั่วประเทศ เป็นเงินกว่า25ล้านบาทในการก่อสร้าง อีกทั้งด้านชุมชนก็ได้มีการจัดกิจกรรมทีแสดงถึงการน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์โดยกิจกรรมคือกิจกรรม"ของเหลือใช้ ถ้าทิ้งไปก็น่าเสียดาย " เป็นกิจกรรมที่รวบรวมของที่ไม่ใช้แล้วจากพนักงานที่ยังมีสภาพดี นำไปบริจาคให้กับสถานรับบริจาคต่างๆ โดยกิจกรรมดังกล่าวได้มีการดำเนินการไปในแนวทางเดียวกันภายใต้กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้มุ่งสร้างในอีกหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านโภชนาการ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านพัฒนาบุคลากร อย่างครอบคลุมตต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยในด้านต่างๆ


โปสเตอร์






Billbord























วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

Bar B Q Plaza





Bar B Q Plaza





บาร์บีคิวพลาซ่า เป็นแบรนด์ร้านอาหารประเภทปิ้งย่างบนกระทะทองเหลือง 
เปิดให้บริการสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวในเดือนกรกฎาคม ปี 2530 
ลักษณะอาหารเป็นรูปแบบปิ้งย่างซึ่งภายหลังจากการเปิดสาขาแรก ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าได้รับความนิยม 
และการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ 
และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 102 สาขา 
ตั้งอยู่ ณ ศูนย์การค้าชั้นนำ และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯและตามหัวเมืองหลักของจังหวัดต่าง ๆ



หน้าเว็บไซต์



เว็บไซต์บาร์บีคิวพลาซ่า มีการบอกประวัติความเป็นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตราสินค้า
และมีการแนะนำประชาสัมพันธ์ถึงเมนโปรโมชั่นและอัพเดทความเคลื่อนไหวรวมถึงกิจกรรมใหม่ๆ
และมีช่องทางการติดต่อด้วย
โซเชียลมีเดีย


facebook



บาร์บีคิวพลาซ่าใช้ Facebook Fanpage ในการอัพเดทโปรโมชั่น และกิจกรรมของร้าน 
มีทั้งเป็นคลิปวิดีโอ ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นอกจากนั้นยังมีการเชิญชวนให้ลูกค้าถ่ายภาพมาแชร์กันอีกด้วย 
โดยทางร้านจะเน้นไปที่การสื่อสารแบบเป็นกันเอง ผู้ดูแลเพจแทนตัวเองเสมือนเป็นบาร์บีก้อน 
เจ้ามังกรสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของร้าน มาทักทายลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังคอยตอบคำถาม
และรับคำติชมของลูกค้าอีกเช่นกัน


twitter



twitter ของบาบีคิวพลาซ่า มีการอัพเดตข่าวสารและโปรโมทกิจกรรมต่างๆ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ๆ
โดยบาบีคิวพลาซ่า จะใช้คำในการทวิตที่น่าสนใจตามเทรนต่างๆ ใช้คำที่สุภาพ และจะมีการติดแฮชแทค
เพื่อให้เป็นที่สนใจของลูกค้า ที่ชอบเล่นโซเชี่ยล มารีทวิต ถือเป็นการกระจายข่าวสารอย่างรวดเร็ว
ทำให้บางแฮชแทคของบาบีคิวพลาซ่าติดเทรนโลกบนทวิตเตอร์ที่มีคนสนใจมากที่สุด


youtube




ช่อง Youtube ของบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ร้านใช้สื่อสารกับลูกค้า ทั้งอัพโหลดภาพยนตร์โฆษณาให้ลูกค้าสามารถแชร์ได้อย่างเต็มที่ 
และวิดีโอการทำกิจกรรมต่างๆของบาร์บีคิวพลาซ่า ถึงแม้ช่องของบาร์บีคิวพลาซ่าอาจจะมีผู้ติดตามไม่มากเท่าไหร่ 
แต่คลิปที่ถูกปล่อยออกมาที่มียอดวิวมากที่สุดกว่า 4 ล้านวิวเลยทีเดียว  


Instagram




ช่องทางสื่อสารผ่านรูปภาพของบาร์บีคิวพลาซ่าบนอินสตาแกรม มีการอัพเดทโปรโมชั่น 
และโปรโมทกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก เช่นการ อัพรูปภาพพร้อมติดแฮชแทค 
แล้วทางร้านจะเลือกรูปภาพของลูกค้ามาอัพลงในแอคเคาท์หลักของบาร์บีคิวพลาซ่า  


Line



ไลน์ออฟฟิเชียลของบาร์บีคิวพลาซ่า จะค่อยอัพเดทโปรโมชั่น และโปรโมทกิจกรรมต่างๆ
ให้ลูกค้าได้ทราบได้ในทันทีที่กดเพิ่มเพื่อน และมีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ 
จึงทำให้ลูกค้าจะไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดของทางร้านเลย



แคมเปญ

Line sticker


Bar B Q Plaza เพิ่มช่องทางในการติดต่อและรับข้อมูลข่าวสารให้กับลูกค้าผ่านทางการแอดเฟรนด์ 
เพื่อการดาวน์โหลดสติกเกอร์ ลูกค้าจะได้รับข่าวสาร โปรโมชั่นทางๆผ่านทางไลน์แอพพลิเคชั่น


แฟนเดย์..แฟนก้อน วันเดียวไม่เคยพอ




บาร์บีคิวพลาซ่าได้จัดโปรโมชั่นร่วมกับโรงหนังเมเจอร์ซินิเพล็กซ์ โดยจัดชื่อกิจกรรมตาม
ภาพยนต์ยอดฮิตเรื่อง "แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว " โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า
" แฟนเดย์..แฟนก้อน วันเดียวไม่เคยพอ "
ดูแฟนเดย์วันนี้ ใช้ตั๋วเป็นส่วนลดที่บาร์บีคิวพลาซ่าได้ และใบเสร็จที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า
ก็เป็นส่วนลดตั๋วหนังแฟนเดย์ ได้เหมือนกัน เป็นการนำสิ่งที่อยู่ในกระแสมาร่วมกับธุรกิจเพื่อ
ดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายมาใช้บริการ และปล่อยคลิปโฆษณาเพิ่ม
การดึงดูดความสนใจ โดยมีการนำภาพอาหารในร้าน และตัวอย่างจากภาพยนตร์มาให้ชมอีกด้วย



กระทะใหม่ - Bar B Q Plaza





จากคลิปโฆษณาที่ออกมาของบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นการสื่อสารที่เน้นการแนะนำกระทะของบารบีคิวพลาซ่า
ที่จากเดิมเป็นกระทองเหลืองธรรมดา เปลี่ยนมาใช้กระทะที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเน้น
การนำเสนอให้กระทะดูมีความพิเศษกว่ากระทะชนิดเดิมมาก โดยใช้วัสดุ Cast Iron ทำให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
แล้วด้วยการออกแบบที่ทำช่องน้ำซุปที่กว้างขึ้น คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้เป็นการแก้ข้อเสียเดิม
ของกระทะแบบเดิม ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีบาร์บีคิวพลาซ่า



กิจกรรมนู๋ทำได้






กิจกรรมนู๋ทำได้ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสำคัญของพนักงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญขององค์กร
ในการตอบสนองปรัชญาธุรกิจโดยยึดหลัก “มื้อนี้ต้องดีที่สุด” คือการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในการมอบความประทับใจให้กับลูกค้า


วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

Nestle pure life



Nestlé Pure Life


เนสท์เล่ในประเทศไทย ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2436 จากนั้นธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดีโดยการนำผลิตภัณฑ์หลายชนิดเข้ามาจากต่างประเทศ และในปี พ.ศ. 2490 ได้มีการจัดตั้งบริษัท “โปรเนสยาม อินค์” จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ เนสท์เล่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 ผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางและมีความต้องการ ผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ในเมืองไทยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับภาวะการลงทุนที่เอื้ออำนวย เนสท์เล่จึงได้ สร้างโรงงานผลิตขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นก้าวแรกของการสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย

บทบาทของเนสท์เล่ในประเทศไทยมิได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มคุณภาพสูงหลากหลายชนิดเท่านั้น แต่ยังมีความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้ความช่วยเหลือ ภาคเกษตรในโครงการพัฒนาพืชผลสำหรับเกษตรกรในท้องถิ่น และมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจ ในรูปแบบการพึ่งพาตนเองโดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในปี 2007 น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ เปิตตัวโฆษณาชุดใหม่ ด้วยเรื่องราวของหนุ่มสาว 3 คู่ 3 สไตล์เพื่อปลุกกระแส “หยิบยื่นสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน” ผ่านทางแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ 
  การทำตลาดของ "เนสท์เล่ เพียวไลฟ์" ที่ใช้สโลแกน "ให้ชีวิตสดใส ให้เนสท์เล่ เพียวไลฟ์" จึงต้องปรับรูปแบบมาเป็นการเดินเกมในเชิงรุกมากขึ้น เป็นวิธีการสอดแทรกประโยชน์ของการดื่มน้ำเยอะๆไปกับความห่วงใยที่อยากให้คนๆนั้น โดยนับตั้งแต่ต้นปีมีการทำตลาดที่เน้นการสร้างแบรนด์ ภายใต้กลยุทธ์ Emotional Marketing เพื่อขยายกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในวงกว้าง ผ่านโฆษณา 3 เรื่องคือ  "Chat" สื่อสารถึงกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ "Basketball" เน้นลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น และ "Traffic" กลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ใช้รถใช้ถนน 



 นอกจากนั้น ยังเป็นการใช้ Emotional Value เข้ามาให้เกิดการสื่อสารแบรนด์สู่ผู้บริโภค (Brand Connection) และภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดียังเป็นปัจจัยให้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ผ่านจุดเด่นของภาพยนตร์โฆษณาที่เน้นการนำเสนอให้น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ไปพร้อมกับโน้ตที่มีข้อความแสดงความรู้สึกดีๆ ซึ่งเป็นวิธีการสอดแทรกประโยชน์ของการดื่มน้ำ ไปกับความห่วงใยที่อยากให้คนๆ นั้นได้รับ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภครับรู้ไปพร้อมกับอารมณ์ที่สดใสและรอยยิ้มที่สดชื่น 








การบริการ




เนสท์เล่ ได้เพิ่มความสะดวกมากขึ้นให้กับผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเวลาไปซื้อน้ำดื่ม ทางบริษัทมีบริการจัดส่งถึงบ้านรวมถึงสำนักงานในเขตกรุงเทพฯ เงื่อนไขคือโดยต้องทำการลงทะเบียนสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ และหากลงทะเบียนในช่วงเวลาที่กำหนดจะสามารถเลือกรับโปรโมชั่นได้ตามที่บริษัทกำหนดอีกด้วย








หน้าเว็บไซต์


เว็บไซต์ น้ำดื่มเนสท์เล่ มีการบอกประวัติความเป็นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตราสินค้า ทั้งนี้ยังรวมลักษณะของสินค้าต่างๆให้ลูกค้าสามารถเลือกชมและอัพเดทความเคลื่อนไหว โดยหน้าเว็บไซต์มีช่องทางการติดต่อ ข่าวประชาสัมพันธ์ สินค้า โปรโมชั่นและอัพเดตกิจกรรมต่างๆของเนสท์เล่อีกด้วย





โซเชียลมีเดีย

facebook

Facebook โดยทาง Nestlé Pure Life Thailand มีการเลือกใช้สื่อของ Facebook เพื่อให้เข้าถึงกับกลุ่มลูกค้าด้วยความรวดเร็วและยังมีการลงสื่อต่างๆอีกด้วย



youtube

Youtube ผ่านทางช่อง Nestlé Pure Life Thailand โดยมีการอัพโหลดวิดีโอแคมเปญร่วมสนุก และกิจกรรมให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการชดเชยน้ำให้ร่างกาย และรณรงค์การคัดแยกชิ้นส่วนขวดน้ำพลาสติกเพื่อนำไปรีไซเคิล 




แคมเปญ


 แคมเปญล่าสุด น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ พาเที่ยว ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ พร้อมรางวัลอื่นๆ รวม 6 ล้านบาท น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ขนาด 0.33 ลิตร ออกแบบฉลากใหม่ให้ลูกค้าสะสมฉลากใหม่ให้ครบ 40 ชิ้น เพื่อเป็นแรงจูงใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์

  •  

น้ำดื่มเนสท์เล่พยายามทำให้ผู้บริโภคนั้นนึกถึงแบรนด์สินค้าของเขาอยู่ในใจเป็นอันดับแรกของการซื้อและบริโภคน้ำดื่ม จึงเลือกที่จะมุ่งเน้นให้น้ำดื่มเนสท์เล่ให้อยู่ในทุกกิจกรรมของผู้บริโภค และพยายามตอกย้ำความีคุณภาพของน้ำดื่มเนสท์เล่ ที่เหมาะกับทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงได้เลือกที่จะทำแคมเปญต่างๆให้ออกมาตอบสนองวิถีชีวิตของผู้บริโภคทุกๆคน




แคมเปญนี้ออกมาในช่วงเทศกาลวันแม่ น้ำดื่มเนสท์เล่จึงทำวิดิโอนี้ออกมาเพื่อทำให้ความรู้สึกที่มีต่อแม่ ว่าแม่เป็นผู้ส่งต่อสิ่งดีๆให้กับเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก สุขภาพร่างกายรวมถึงจิตใจ 
เนื่องจากน้ำดื่มเนสท์เล่ได้อยู่คู่กับสังคมมานาน ดังนั้นในการสื่อสารของวิดิโอพยายามทำให้เห็นถึงช่วงระยะเวลาตั้งแต่ แม่ส่งต่อสิ่งดีๆให้กับเราและเราก็ส่งต่อสิ่งที่ดีๆให้กับลูกหรือคนที่เรารักต่อไป









วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

LEE Jeans





LEE Jeans

Lee – แบรนด์เดนิมแห่งตำนานตั้งแต่ปี 1889 Lee คิอตัวแทนของคุณภาพ นวัตกรรม และความทนทาน
นับจากที่เฮนรี่ เดวิด ลี (Henry David Lee) ก่อตั้ง 'H.D. Lee Mercantile Company' ขึ้นในแคนซัส สหรัฐอเมริกา Lee กลายมาเป็นแบรนด์เดนิมแห่งตำนานที่สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ๆ ด้วยการออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ กางเกงยีนส์รุ่น 101Z zip flyตัวแรกของโลกในปี 1926, ป้ายแบรนด์
ทำจากหนัง 'Hair-on-hide' และงานเย็บตะเข็บกระเป๋าหลัง แบบ 'Lazy S'นับจากการเปิดตัวครั้งแรกของ Lee bib และพัฒนาไปจนถึง คาวบอยยีนส์ รุ่น "101" 13 oz. นั้นนับเป็นเวลากว่า 120ปี ที่ Lee ได้พิสูจน์และแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ Lee สามารถผันตัวเอง จากผู้ผลิตชุดทำงานที่ทนทาน สวมใส่ง่าย ไปสู่แถวหน้าของแบรนด์ผู้นำแฟชั่นร่วมสมัยในที่สุด โดยLee Jeans มีการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการดังนี้





หน้าเว็บไซต์
เว็ปไซด์ Lee มีการบอกประวัติความเป็นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตราสินค้า ทั้งนี้ยังรวมลักษณะของสินค้าต่างๆให้ลูกค้าสามารถเลือกชมและอัพเดทความเคลื่อนไหว โดยหน้าเว็ปไซด์มีการจัดระเบียบแยกเป็นหมวดหมู่หญิง-ชาย และประเภทของยีนส์เพื่อความสะดวกสบายในการค้นหาสินค้าที่ลูกค้าสนใจ นอกจากนี้ยังมีการบอก Store Location ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อง่ายต่อการสั่งซื้ออีกด้วย



โซเชียลมีเดีย

Twitter


Facebook


YouTube



Instargram



การใช้สื่อสังคมออนไลน์ของLeeมุ่งเน้นไปที่กลุ่มหนุ่มสาวที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยเห็นได้จากการใช้ภาพที่เป็นเหล่าหนุ่มสาวที่มีกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งสอดคล้องกับLeeที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆกิจกรรม



YoonA  event

Yoona girl generation เปรียบเสมือนผู้นำเทรนด์แฟชั่น เนื่องจากวงgirl generation ต้องเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ต และทำงานต่างประเทศอยู่บ่อยๆ การแต่งตัวของยุนอา จึงเป็นที่จับตามองของสาวๆทั่วโลกที่สนใจในด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของยุนอาจะเป็นคนที่แต่งตัวเรียบง่าย ทะมัดทะแมง เธอจึงเลือกที่จะใส่ยีนส์ Lee ตามสโลแกน " move your lee " จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของยุนอาเป็นอย่างมาก



คลิปโฆษณา







จาก วีดีโอ Lee Jeans — Move Your Lee TV Commercial ทั้งชายและหญิงที่เผยแพร่ผ่านทาง ยูทูป เมื่อมาไม่นานมานี้ (6กันยายน2559) คลิปวีดีโอทั้งสอง พยายามสื่อมาในรูปแบบที่คล้ายๆกัน เพียงแต่ว่าแบ่งเพศสภาพให้ดูออกชัดเจนถึงผู้ใช้ยีนส์Lee แต่ยังคงดำรงไว้ซึ่งเนื้อหาที่คล้ายคลึงกัน คือแสดงถึงการสวมใส่ยีนส์ยี่ห้อLee ที่เข้ากับทุกสถานการณ์ ทั้ง การทำงานในแหล่งต่างๆ ยกตัวอย่างโดยที่ฝ่ายชายทำงานในออฟฟิศ และฝ่ายหญิงทำงานเป็นแพทย์,การเดินทางในหลากหลายรูปแบบ ตลอดถึงการปาร์ตี้เฉลิมฉลองในงานต่างๆ และท้ายคลิปยังมีการแสดงถึงกิจกรรมต่างๆอีกมากมายที่มีการใส่ยีนส์Leeในการทำกิจกรรม



Shop Lee



Shop lee เป็นศูนย์รวมกางเกงยีนส์ เสื้อยีนส์ที่มีความทันสมัยผลิตจากผ้าคุณภาพเยี่ยม เผยสไตล์ที่เป็นตัวคุณอย่างแท้จริง กางเกงยีนส์เหมาะสำหรับการแต่งตัวที่เรียบง่ายสบาย การตกแต่งร้านจึงมีความเรียบง่ายใช้เพียงแค่สีขาวและสีดำในการตกแต่งแต่แฝงความร่วมสมัยและมีสไตล์เป็นของตัวเอง



พรีเซนเตอร์




Lee เลือกใช้พรีเซนเตอร์ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงาน เพราะเป็นวัยที่สามารถทำกิจกรมมร่วมกับผู้อื่นได้ในหลากหลายกิจกรรม รวมถึงการผจญภัยต่างๆ
เพื่อทำให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกอยากใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการ 




 "Lee City Kiosk"





วงการแฟชั่นเริ่มขยับตัวลงมาในการเลือกทำตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ “ลี (Lee)” เป็นแบรนด์แรกในกลุ่มธุรกิจยีนส์ที่ขยับลงมาช่องทางนี้ เพราะต้องการสร้างช่องทางที่แปลกใหม่ เพิ่มกิมมิคเล็กๆ ให้การขายมีสีสัน โดยใช้ชื่อว่า “Lee City Kiosk” เป็นเครื่องขายเสื้อผ้าอัตโนมัติที่พัฒนาขึ้นของแบรนด์ลีในประเทศไทยโดยเฉพาะ
ในต่างประเทศยังไม่มีการใช้โมเดลนี้